เพื่อให้การมาส์คหน้าได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ขั้นแรกต้อง
· เลือกมาส์คให้ถูกประเภทโดยเลือกจากคุณสมบัติที่ต้องการและการแก้ไขปัญหาผิวพรรณ เช่น มาส์ค เพื่อการทำความสะอาดขจัดสิ่งสกปรก เพื่อยกกระชับผิว หรือเพื่อความขาวใส
เมื่อเลือกประเภทมาส์คได้แล้ว ต้องเข้าใจ ขั้นตอนการใช้ ด้วย เพราะมาส์คบางประเภทเป็นชนิดทาพอกทิ้งไว้ รอแห้งแล้วล้างออก และก็ไม่ควรทิ้งนานกว่าเวลาที่กำหนด เพราะจะทำให้ผิวแห้งไป
ในบางชนิดเป็นเนื้อเจล รอให้แห้งแล้วลอกออก มาส์คเพื่อดูดซับสิ่งสกปรก ซึ่งไม่ควรลอกเกินสัปดาห์ 1-2 ครั้ง
· มาส์คให้ถูกเวลา บางประเภทก็เหมาะสำหรับทำในช่วงเย็น เช่น มาส์คประเภทดูดซับสิ่งสกปรก เพื่อให้ผิวได้ผ่อนคลายหลังจากที่เผชิญมลภาวะมาตลอดทั้งวัน แต่หากเป็น มาส์คประเภทฟื้นบำรุง หรือยกกระชับ ควรทำในช่วงก่อนนอน เพื่อให้ผิวได้ฟื้นบำรุงในช่วงเวลาขณะนอนหลับ หรือหากต้องการให้ผิวหน้าดูอิ่มเอิบ สดใสก่อนงานสำคัญ ก็สามารถมาส์คหน้าก่อนการบำรุงหรือแต่งหน้าในเวลากลางวันได้
ขั้นตอนการ เตรียมผิวก่อนการมาส์คหน้า เพราะหากเป็นมาส์คเพื่อดูดซับความมันสิ่งสกปรก ก่อนมาส์คเพียงล้างหน้าด้วยโฟมก็เพียงพอ แต่หากเป็นมาส์คเพื่อการบำรุงฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส หรือ มาส์คเพื่อยกกระชับ ควรล้างหน้าให้สะอาด และปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์ก่อนการมาส์คหน้า อีกหนึ่ง เทคนิคพิเศษที่ช่วยให้สารบำรุงในมาส์คทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ในวันแรกที่มาส์คหน้า หลังล้างหน้าด้วยโฟม ให้สครับผิวหน้าเพื่อขจัดเซลล์เสื่อมสภาพ จากนั้นเช็ดโทนเนอร์ตามต่อด้วยการมาส์คหน้า แต่หากต้องทำทรีทเมนท์ซ้ำในวันถัดไป ไม่ควรสครับผิวซ้ำอีก เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ และ
เพื่อให้มาส์คบำรุงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เวลาวางแผ่นหน้ากากมาส์ค ควรวางให้แนบสนิทไปกับผิวหน้า
ใช้นิ้วมือลูบให้แนบสนิท และไม่ควรขยับเขยื้อนใบหน้า เพราะอาจเกิดช่องอากาศ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของแผ่นมาส์คลดลง ซึ่งหากเป็นแผ่นมาส์คชนิดกระดาษ (TissueMask) จะไม่แนบสนิทกับผิว เพราะแผ่นมาส์คจะแห้งเร็วทำให้สารบำรุงระเหย และยังเกิดรอยย่นและช่องอากาศ แต่แผ่นมาส์คชนิดนาโนNanofront หรือแบบ (BiocelluloseMask) ที่ได้รับการพัฒนาในรูปแบบคล้ายแผ่นเจล จะให้ความยืดหยุ่น แนบสนิท และกักเก็บความชุ่มชื่นได้ดีกว่าโดยช่วยผลักดันสาระสำคัญเข้าซึมลึกสู่ผิว และทำงานได้อย่างดีและรวดเร็วกว่าแผ่นมาส์กชนิดอื่นๆ |