Astaxanthin series นำเข้าจาก Alpha Laboratories Newzealand
แอสต้าแซนทีน สาหร่ายแดงสกัด นำเข้า จากแหล่งวัตถุดิบที่ดีที่สุด
----------------------------------------
แหล่งที่ดีที่สุด!!!
"ไม้สักทอง" ที่ดีที่สุด "ไทย,เพชรบูรณ์"
"ไวน์องุ่น" ที่ดีที่สุด "ฝรั่งเศส"
"ทับทิม" ที่ดีที่สุด "เปอร์เซีย, อิหร่าน"
"โสม" ที่ดีที่สุด "เกาหลี"
"สาหร่ายแดง" ที่ดีที่สุด "นิวซีแลนด์"
---------------------------------------
วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหาร
ขนาด 30แคปซูล
ราคา 660 บาท
อย.13-1-03440-1-0147
คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค
เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายแต่ละบุคคล เก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดด
เป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่งในกลุ่มแซนโทฟิลล์สามารถพบได้ ในแหล่งธรรมชาติ ในสภาพแวดล้อมทะเลไปจนถึงแอ่งหินทั่วไป รวมทั้งพบในเปลือกกุ้ง เปลือกปู และปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ (อ้างอิงที่ 4) ซึ่งมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชั่น ป้องกันการเสื่อมสภาพผิวจากแสงแดด และช่วยลดการอักเสบ (อ้างอิงที่ 5)
นอกจากนี้สามารถพบแอสตาแซนธินได้ในสาหร่ายพันธุ์ Haematococcus pluvialis (สาหร่ายแดง) ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งที่มีแอสตาแซนธินมากที่สุดในธรรมชาติ (อ้างอิงที่ 6)
และไม่ต่างกับแอสตาแซนธินที่อยู่ในปลาแซลมอนและสัตว์ทะเลอื่นๆ (อ้างอิงที่ 4)
แอสตาแซนธิน มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดในสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ด้วยกัน มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถปรับตัวเองอยู่ได้ทั้งส่วนที่เป็นไฮโดรฟิลิก (ชั้นน้ำ) และไฮโดรโฟบิก (ชั้นไขมัน) ได้ทั้ง 2 ส่วน ต่างกับเบต้าแคโรทีนที่จะอยู่ได้เฉพาะส่วนที่เป็นชั้นไขมันและวิตามินซีจะอยู่ได้ เฉพาะส่วนที่เป็นชั้นน้ำ (อ้างอิงที่ 7) จึงมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าในการป้องกันผนังเซลล์ซึ่งมีทั้งชั้นน้ำและไขมัน (Lipid bilayer) จากปฏิกิริยาเปอร์ออกซิเดชั่น
งานวิจัยทางคลีนิคศึกษา ผลด้านสุขภาพผิวของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีส่วนประกอบของแอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ในกลุ่มอาสาสมัครผู้หญิงชาวอเมริกันวัยกลางคนที่สุขภาพดี พบว่า หลังจากสัปดาห์ที่ 6 อาสาสมัครกลุ่มที่ทานแอสตาแซนธินวันละ 4 มิลลิกรัม (2 x 2 มิลลิกรัม) มีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ริ้วรอยลดเลือนลง ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (placebo) (อ้างอิงที่ 8)
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยกับกลุ่มอาสาสมัครผู้หญิงจำนวน 30 คน อายุเฉลี่ย 20-55 ปี โดยให้อาสาสมัครรับแอสตาแซนธินจาก Haematococcus pluvialis 6 มิลลิกรัม ต่อวัน ควบคู่กับการใช้ ครีมจากแอสตาแซนธิน 2 มิลลิกรัม (สารละลาย 78.9 ไมโครโมล) หลังจากสัปดาห์ที่ 8 พบว่าริ้วรอยเหี่ยวย่นลดลง จุดด่างดำจากแสงแดดลดลง ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น มีความชุ่มชื้นดีขึ้นทั้งในผิวชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ เมื่อมีการรับประทานร่วมกับการใช้ครีมบำรุงที่มีแอสตาแซนธิน (อ้างอิงที่ 4)
อีกงานวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (Randomized double-blind placebo controlled study) ทดลองในกลุ่มผู้ชายในประเทศญี่ปุ่นจำนวน 36 คน อายุระหว่าง 20 - 55 ปี แบ่งอาสามัครเป็น 2 กลุ่มเท่าๆ กัน คือกลุ่มที่ได้รับแอสตาแซธินจาก Haematococcus pluvialis 6 มิลลิกรัม จำนวน 18 คน และกลุ่มหนึ่งที่ได้รับยาหลอก (placebo) จำนวน 18 คน หลังจากสัปดาห์ที่ 6 พบว่า กลุ่มที่รับประทานแอสตาแซนธินมีสุขภาพผิวโดยรวมดีขึ้น ดังนั้น การรับประทานแอสตาแซนธินจึงช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นได้ทั้งในเพศหญิง และเพศชาย (อ้างอิงที่ 4)
นอกจากนี้ เนื่องจากแอสตาแซนธินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณภาพสูง ยังมีงานวิจัยของแอสตาแซนธินที่มีคุณประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีก เช่น เรื่องสายตา และ การลดระดับไขมันในเลือดในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน เป็นต้น
ทางด้านผลต่อสายตา และการมองเห็น
มีงานวิจัยของประเทศอิตาลี เป็นการทดลองแบบมีกลุ่มควบคุม โดยวัดความสามารถในการมองเห็น (visual acuity (VA), contrast sensitivity (CS) and National Eye Institute visual function questionnaire (NEI VFQ-25) scores)
ของอาสาสมัครกลุ่มทดลองที่รับประทานแอสตาแซนธิน 4 มก. ร่วมกับลูทีน 10 มก. ซีแซนทีน 1 มก. ต่อวัน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่รับประทาน ติดตามผลเป็นเวลาสองปี พบว่า อาสาสมัครมีความสามารถในการมองเห็นดีขึ้นกว่ากลุ่มที่ไม่รับประทาน อย่างมีนัยสำคัญ (อ้างอิงที่ 9)
ทางด้านไขมันในเลือด
งานวิจัยของประเทศเกาหลี ทำการทดลองแบบมีกลุ่มควบคุมในผู้ที่น้ำหนักเกิน โดยผู้รับการวิจัยและผู้รับการรักษาไม่ทราบว่ารับประทานแอสตาแซนธิน หรือ ยาหลอก (Randomized, double-blind, placebo-controlled study) พบว่า การรับประทานแอสตาแซนธินมีผลดีต่อระดับไขมันในเลือด โดยลดแอล ดี แอล โคเลสเตอรอล (LDL Cholesterol) ได้อย่างมีนัยสำคัญ และมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระได้จริงในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน (อ้างอิงที่ 10)
วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน จึงช่วยลดการเกิดริ้วรอยและช่วยป้องกันอันตรายจากรังสียูวีจากแสงแดด นอกจากนี้ยังสามารถลดภาวะการเกิดผิวหมองคล้ำได้อย่างนัยสำคัญ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผิวพรรณแลดูกระจ่างใสและมีสุขภาพดี (อ้างอิงที่ 11,12)
การทำงานร่วมกันของแอสตาแซนธินและวิตามินซี จึงให้คุณสมบัติการเป็นสาร ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก จะส่งผลดีต่อสุขภาพผิวพรรณ โดยสามารถ ลดการเกิดริ้วรอย ลดจุดด่างดำ เพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณดูมีสุขภาพดี อ่อนวัย และกระจ่างใสแม้ตัวเลขของอายุจะเพิ่มขึ้นก็ตาม