1.ขอความกรุณาอธิบายถึงรูปแบบธุรกิจที่ดำเนินอยู่ ... เป็นนักธุรกิจกิฟฟารีนในรูปแบบ Internet marketing ใช่หรือไม่ เริ่มทำตั้งแต่เมื่อใด?
ตอบ คือผมมีธุรกิจกิฟฟารีนเป็นส่วนหนึ่งในช่องทางหารายได้ เพราะเห็นว่าน่าสนใจ เพราะจากศึกษาพบว่า แนวโน้มทางธุรกิจของธุรกิจเครือข่ายที่มักเติบโตสวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจเสมอ แต่ปัญหามีอยู่ว่า ความรู้ความเข้าใจของคนรอบๆข้างและคนที่รู้จักหลายๆคน มีความสับสนกับ MLM และภาพลักษณ์ของธุรกิจเครือข่ายของคนไทยโดยส่วนมากนั้นอยู่ในแง่ลบ หรือ ถูกมองในลักษณะของ money game โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจรายได้เสริมต่างๆบนอินเตอร์เนตนั้นมีมากมายหลายรูปแบบจนนับไม่ถ้วน ทั้งดีและไม่ดี ดังนั้นเว็บนี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อเป็นแหล่งความรู้
ดังนั้นหากถามว่าเป็น internet marketing หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน แต่สำหรับตัวผม แล้ว เห็นว่าเป็นการแบ่งปันความรู้มากกว่า
ผมเริ่มทำธุรกิจกิฟฟารีน เมื่อ เดือน มีนาคม 2551
2.แผนธุรกิจที่วางไว้เป็นอย่างไร ผลประกอบการเป็นอย่างไรบ้าง?
ตอบ
แผนธุรกิจนั้นคงไม่มีครับ แต่ถ้าถามว่าความมุ่งหวังก็คงอยากให้เป็นศุนย์รวมความรู้ความเข้าใจ และประสบการณ์ของคนทำธุรกิจ MLM คือ ใช้เทคโนโลยีเครือข่าย(internet) ให้เป็นประโยชน์โดย การพัฒนาให้ความรู้แก่สมาชิก และบุคคลทั่วไป ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องสามารถพัฒนาและต่อยอดธุรกิจของตนได้อิสระในความคิดออกแบบธุรกิจของตนเองได้
.. ผลประกอบการ อยู่ในลักษณะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในช่วงเริ่มต้น และหลังเดือนตุลาคม51มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 18%
แนวคิดธุรกิจ "ทำธุรกิจด้วยจิตที่คิดช่วยเหลืออยากให้ ผู้คนทั้งหลายจึงต้อนรับด้วยความยินดีเเละยินดีที่จะตอบแทนคืนบ้างเช่นกัน"
3.รูปแบบ การตลาดทางอินเตอร์เน็ต ให้ผลที่แตกต่างจากรูปแบบปกติอย่างไร หากเป็นไปได้กรุณายกตัวอย่าง หรือประสบการณ์จริงประกอบด้วย
ตอบ.....
การตลาดทางอินเตอร์เน็ต นั้นนักธุรกิจสามารถทราบได้ว่าผู้สนใจมีความสนใจเรื่องอะไร ในขณะที่ รูปแบบเดิม เป็นการยากที่จะค้นหาว่าใคร สนใจเรื่องอะไร มีปัญหาอะไรบ้าง และง่ายที่ถูกปฏิเสธ หรือ กระทำการรบกวนจิตใจผู้มุ่งหวังโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
แต่การทำตลาดบนอินเตอร์เนต นักธุรกิจสามารถใช้เวลาว่างในแต่ละวัน สามารถบริหารงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด ผู้บริโภคหรือสมาชิกธุรกิจสามารถติดต่อ สื่อสารกันได้โดยไม่รบกวนเวลางานหรือหน้าที่ประจำวันของแต่ละคน
ตัวอย่างเช่น การติดต่อให้ข้อมูลข่าวสารหรือความรู้ สมาชิกหรือผู้บริโภคสามารถ รับข่าวสารได้ในขณะที่เขาสะดวกและมีเวลาว่าง แต่กรณีรูปแบบเดิม นั้น การติดต่อทางโทรศัพท์หรือการนัดหมายนั้น เป็นเรื่องยากเพราะ เราจะไม่สามารถทราบได้เลยว่า ณ เวลานั้น สมาชิกหรือผู้บริโภคสะดวกในการติดต่อหรือไม่ กล่าวโดยสรุป แผนการตลาดทางอินเตอร์เน็ท จากประสบการณ์ของผมเห็นว่า อินเตอร์เน็ทเป็นชุมชนใหม่ และมีแนวโน้ม เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนสามารถเป็นเพื่อนกันติดต่อหากันได้โดยไม่มี ระยะทาง หรือเวลา มาขวางกั้น ถ้าสามารถดำเนินการอะไรได้ก็เป็นสิ่งที่ดี
4.มีเว็บของนักธุรกิจกิฟฟารีนอยู่หลายราย มีความแตกต่างกันอย่างไร? และนโยบายของบริษัทต่อรูปแบบนี้เป็นอย่างไร?
ตอบ บริษัท(เกือบทุกบริษัทไม่เฉพาะแต่บริษัทกิฟฟารีน)ไม่มีนโยบายให้สมาชิกทำเว็บไซด์หรือสร้างเครือข่ายขยายงานบนอินเตอร์เน็ต (ตามที่ผมทราบคือบริษัทขายตรงที่เป็นสมาชิกสมาคมขายตรงไทย)
เนื่องจากกฏหมายทรัพย์สินทางปัญญา ว่าด้วยเรื่องเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์
พระราชบัญญัติขายตรงและการตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545
พระราชบัญญัติการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ 2550
ซึ่งเว็บไซด์ของสมาชิก จะต้องไม่มีการเชิญชวน ให้สมัครสมาชิกของบริษัทนั้นๆ ไม่แสดงรูปสินค้า เครื่องหมายการค้า ของบริษัท ไม่ทำการโฆษณาชวนเชื่อ(สินค้า หรือการต่อสายงานอัตโนมัติ)ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ผู้เยี่ยมชมเกิดความเข้าใจผิดเป็นระบบแชร์ลูกโซ่
ดังนั้น เว็บไซด์ของนักธุรกิจ จึงมีความแตกต่างในการนำเสนอเรื่องราวแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถเฉพาะบุคคลในการนำเสนอ ดังนั้นถ้าผู้สนใจพบเห็นเว็บไซด์ที่ผิดกฏไปจากที่กล่าวมาข้างต้น แล้ว เว็บไซด์ของสมาชิกผู้นั้นจะถูกลงโทษตามกฏของบริษัทและถูกดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
5.การดูแลเว็บ การออกแบบ จัดทำเองหรือมอบหมายให้บริษัทใดจัดการ ,คนที่ทำธุรกิจ กิฟฟารีน หรือการขายตรงอื่นทั่วไป สามารถทำการตลาดออนไลน์ได้หรือไม่ ต้องลงทุนอย่างไร หรือมีคำแนะนำอย่างใดบ้าง ?
ตอบ การดูแลเว็บไซด์ จัดทำเว็บไซด์ ขึ้นอยู่กับสมาชิก ปัจจุบันสมาชิกสามารถจัดทำเว็บไซด์เองได้โดยไม่จำเป็นต้องจ้างเว็บโปรแกรมเมอร์ในการจัดทำเว็บไซด์ หรือสามารถใช้ เครื่องมือธุรกิจต่างๆทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละทีมงานที่จะจัดเตรียมสนับสนุนการทำตลาดแก่สมาชิกของตน หรือแต่ละทีมงาน โดยจะต้องสอดคล้องกับกฏหมาย
การลงทุนทำการตลาดออนไลน์ สมาชิกสามารถ ลงทุนได้ตั้งแต่ ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายซึ่งอาจจะต้องอาศัยระยะเวลาและความอดทนนานพอสมควร หรือแบบมีค่าใช้จ่าย ในการทำธุรกิจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศักยภาพของผู้สนใจที่เป็นคนกำหนดต้นทุนและค่าใช้จ่ายของตนเอง ซึ่งไม่ควรเกิน 2000บาทต่อเดือนในตอนเริ่มต้นธุรกิจ ค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นโดยมาก มักเป็นการทำโฆษณา แนะนำเว็บไซด์เพื่อให้คนรู้จัก
สำหรับตัวผมเองแล้วมองว่า ไม่มีโอกาสทางธุรกิจใด ที่สามารถใช้เวลาว่างในแต่ละวันดำเนินธุรกิจได้และมีความเสี่ยงน้อยที่สุด และมีโอกาสเติบโตอย่างยั้งยืนเท่า การตลาดบนอินเตอร์เน็ตโดยผนวกกับธุรกิจเครือข่าย แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่คนไทยจำนวนมากยังขาดความรู้ความเข้าใจ ในการทำธุรกิจที่ถูกต้อง
คำแนะนำสำหรับผู้สนใจ
· เตรียมความพร้อมในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอๆ (การใช้อีเมล์, chat, SEO/SEM, อื่นๆ)
· มีสติ ในทุกธุรกิจมีทั้งดีและไม่ดี ดังนั้นอย่าหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อ ตัดสินใจทำธุรกิจอย่างมีสติ
· คัดเลือกบริษัทที่มั่นคงไม่สร้างภาพ การสนับสนุนการตลาดในสื่อต่างๆ หรือไม่ คุณภาพสินค้าเป็นอย่างไร? สมาชิกหรือผู้บริโภคสามารถบริโภคซ้ำได้มากน้อยแค่ไหน, ราคาสินค้า สูงเกินไปมีความเป็นธรรมหรือไม่หรือไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน. ชื่อเสียงเป็นอย่างไร? มีโอกาสทำสำเร็จตามแผนของบริษัทนั้นๆได้มากน้อยอย่างไร? สำหรับเรื่องผลตอบแทนของบริษัทต่างๆ นั้น
· คัดเลือกที่ปรึกษา หรือทีมงาน มีความสำคัญอย่างมาก ผู้สนใจควรคัดเลือกที่ปรึกษา ที่สามารถให้คำปรึกษาให้การดูแล ที่ถูกต้องได้
· มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำธุรกิจ ไม่คาดหวังสูงเกินจริง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าคือธุรกิจ ไม่ใช่ งานเสริม อาชีพเสริม ที่เมื่อสมัครและจะได้รับผลตอบแทนงามๆโดยทันที
ไม่ทำธุรกิจเครือข่ายหลายบริษัทพร้อมๆกันเพราะกลไกลการตลาดจะขัดกันเอง
แทนที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นคุณอาจจะต้องสูญเสียเงินและไม่ประสบความสำเร็จ
ตอบ มีครับ www.Awakenergroup.com เว็บไซด์ภายในสำหรับสมาชิกสามารถเรียนรู้การทำธุรกิจออนไลน์ได้ในเชิงลึก และเครื่องมือการทำธุรกิจ
.ซึ่งเปิดให้สมาชิกเข้ามาเรียนรู้ กันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
แนวคำถามอยู่ในแนวนี้ ผมมุ่งไปที่การทำธุรกิจออนไลน์ หากมีสิ่งใดที่ต้องการเผยแพร่ และผมไม่ได้สอบถาม ก็กรุณาแจ้งให้ทราบด้วย
วีระพันธ์ โตมีบุญ
ลงทะเบียนสมาชิกคลิกที่นี่
|